ขนาดขององค์กรสำคัญต่อ "ยอดจำหน่าย"
การทำเช่นนี้จะช่วยท่านตอบคำถามที่ว่า "ไม่มีใครต้องออกไปขายสินค้าเลยหรือ?" ถ้าท่านได้กลายเป็นคนจริงจังคนหนึ่งแล้ว ท่านก็ได้รู้คำตอบทั้งหมดของคำถามนี้ไปแล้วเช่นกัน ดังนั้น แค่ท่านใช้บทฝึกสอนการนำเสนอบนกระดาษเช็ดปากบทนี้กับคนของท่าน อธิบายตั้งแต่ 2x2 เป็น 4 ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายไปเป็นผู้จำหน่ายจำนวน 780 คน
ในองค์กรการตลาดหลายชั้นที่ใดก็ตาม ถ้าท่านมีคน 780 คน ที่แค่ซื้อสินค้าใช้เอง ท่านก็จะมียอดจำหน่ายขนาดใหญ่แล้ว และนี่เรายังไม่ได้รวมถึงคนเหล่านั้นที่ไม่ได้จริงจัง และแค่เป็น "ผู้ซื้อสินค้า" สรุปย่อๆ ถ้าท่านกำลังสร้างธุรกิจอย่างถูกต้องในกระบวนการของการแบ่งปันโอกาส ท่านจะมีใครบางคนที่ยังไม่ต้องการรับประโยชน์จากธุรกิจนี้ ท่านจะพบว่าหลายๆ คนในกลุ่มนี้ ถ้าไม่เป็นผู้ซื้อสินค้าราคาขายส่ง ก็จะเป็นลูกค้าปลีก
ตอนนี้เรากลับมาดูกันต่อว่าธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างไร ถ้าคนจริงจัง 780 คนของท่านทั้งหมดมีเพื่อน 2 , 3 , 4 หรือ 5 คน...สมมติว่าพวกเขามีลูกค้าคนละ 10 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มาจากเพื่อนๆ ญาติๆ และคนรู้จัก นั่นทำให้เกิดลูกค้ามากถึง 7,800 คน! บวกกับผู้จำหน่ายอีก 780 คนของท่านเข้าไป
- ลองคิดดูว่า ผู้ซื้อสินค้าใช้เองจำนวน 8,580 คน บวกับคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่จริงจัง แต่เป็นเพียง
"ผู้ซื้อสินค้า" จะสามารถให้ผลกำไรแก่ธุรกิจของท่านไหม? และนั่นคือวิธีที่เราทำเงินได้มากมายไม่ว่าท่านจะอยู่ในธุรกิจการตลาดหลายชั้นที่ไหนก็ตาม -โดยการมีคนจำนวนมากทำงานกันคนละเล็กคนละน้อย แต่โปรดจำไว้อย่างหนึ่งว่า ท่านกำลังทำงานกับคนจริงจังเพียงแค่ 5 คน ไม่ใช้ทั้งกองทัพ!
"ฟรอนท์ไลน์" เยอะเกิน
แนนซี่และผู้เขียนมักพบเสมอๆ ว่า ผู้คนในโปรแกรม MLM อื่นๆ หรือของพวกเราเองแต่เป็นสายงานอื่น มักจะประหลาดใจว่า องค์กรของเราเติบโตขึ้นรวดเร็วได้อย่างไร พวกเขาอยู่ในโปรแกรมธุรกิจของพวกเขามานานกว่าเรา แต่กำลังเกา "คลังความคิด" ที่อยู่เหนือคอพวกเขา และถามว่า "คุณพอจะบอกผมได้ไหมว่า คุณกำลังทำอะไรที่ผมไม่ได้ทำ"
เรามักจะถามเขากลับไปว่า "คุณมีฟรอนท์ไลน์อยู่กี่คน ที่คุณกำลังทำงานด้วย?" (ฟรอนท์ไลน์ หมายถึง ผู้จำหน่ายในองค์การของท่าน ผู้ซึ่งอยู่ติดถัดจากท่านลงไปตามสายงานดาวน์ไลน์ บางทีพวกเขายังถูกเรียกว่า ผู้จำหน่าย "ชั้นแรก" ของท่าน ซึ่งเป็นคนที่ท่านอุปถัมภ์โดยตรง)
ผู้เขียนมักจะได้คำตอบตั้งแต่ 25 ไปจนถึง 50 หรือมากกว่านั้นก็มี ผู้เขียนยังรู้จักคนอีกมากมายใน MLM ที่มีฟรอสท์ไลน์ติดตัวมากกว่า 100 คน และผู้เขียนรับประกันกับท่านได้เลยว่า เมื่อใดที่ท่านเข้าใจหลักการต่างๆ ซึ่งได้ถูกอธิบายไว้แล้วในหนังสือเล่มนี้ ท่านจะแซงหน้าคนเหล่านั้นใน 6 เดือน แม้ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่ในธุรกิจมาแล้ว 6-8 ปีก็ตาม
อย่าเกิน 5 คน
ผู้เขียนจะพูดถึงประเด็นนี้อีกครั้งในบทฝึกสอนการนำเสนอบนกระดาษเช็ดปาก #2 ซึ่งมีหัวเรื่องว่า "อาการล้มเหลวของนักขาย" ในการตลาดหลายชั้น ตอนนี้ผู้เขียนจะให้ตัวอย่างง่ายๆ เพื่อแสดงให้ท่านเห็นว่า ทำไมการมีฟรอนท์ไลน์ติดตัวมากเกินไปจึงไม่ดี
ลองวิเคราะห์พิจารณาถึง กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ นาวิกโยธิน และ
กองกำลังรักษาดินแดง ตั้งแต่ระดับต่ำสุดไปจนถึงบนสุดของเพนตากอน (ถ้าเปรียบกับประเทศไทย
ก็น่าจะเทียบได้กับกองบัญชาการทหารสูงสุด) ไม่มีนายทหารคนไหนเลยที่จะพยายามกำกับการโดยตรง กับผู้ใต้บังคับบัญชาเกิน 5 หรือ 6 คน (อาจมีข้อยกเว้นบ้าง แต่เกิดขึ้นค่อนข้างยาก)
ขอให้คิดเรื่องนี้ให้ดี เรามี West Point (โรงเรียนนายร้อยทหารบกที่มีชื่อเสียงของอเมริกา) Annapolis (โรงเรียนนายเรือของอเมริกา) ที่มีอายุมามากกว่า 200 ปี พวกเขาไม่มีความคิดว่านายทหารควรกำกับการโดยตรงเกิน 5 หรือ 6 คน คราวนี้ท่านบอกผู้เขียนซิว่า ทำไมคนที่อยู่ในองค์กรการตลาดหลายชั้น และกำลังทำงานกับผู้จำหน่ายติดตัว 50 คน ถึงคิดว่าตัวเขาเองจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาไม่มีทางทำได้! นั่นคือเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากมายจึงล้มเหลว ขอให้ท่านอ่านต่อไปเรื่อยๆ แล้วท่านจะเข้าใจเหตุผลนั้นมากยิ่งขึ้น
ท่านไม่ควรทำงานกับคนจริงจังเกินกว่า 5 คนต่อครั้ง อย่างไรก็ตามท่านต้องแน่ใจว่า เมื่อไรที่ท่านอุปถัมภ์คนของท่าน ท่านต้องเริ่มทำงานกับกลุ่มคนที่ลึกลงไป เมื่อมาถึงจุดที่คนจริงจังของท่านไม่ต้องการท่านอีกแล้ว คนจริงจังเหล่านั้นจะแยกตัว และเริ่มสายงานใหม่ด้วยตัวเขาเอง เมื่อถึงตอนนั้นตัวท่านเองก็จะมีอิสระที่จะทำงานกับคนจริงจังคนใหม่ แต่ขอให้รักษาจำนวนคนจริงจังที่ท่านต้องทำงานอย่างใกล้ชิดไว้ที่ 5 คน
ในบางบริษัทอาจจะยอมให้ท่านทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกับคนเพียง 3 หรือ 4 คนต่อครั้ง
แต่ไม่มีใครเลยที่ผู้เขียนรู้จักจะสร้างสายงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับคนจริงจังเกิน 5 คน
บทฝึกสอนการนำเสนอบนกระดาษเช็ดปากในหนังสือเล่มนี้มีความเชื่อมโยงกัน ท่านอาจจะมีคำถามมากมายในตอนนี้ คำถามจะค่อยๆ ถูกลบออกไปเรื่อยๆ ขอให้ท่านอ่านต่อไป


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น